โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
การบินไทยตั้งเป้านำเครื่องขนสินค้ามาให้บริการในปี 2553 หวังสร้างรายได้เพิ่มปีละ 2.4 หมื่นล้าน เร่งศึกษา 4 ทางเลือกก่อนเสนอบอร์ดพิจารณา
นายพฤทธิ์ บุปผาคำ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้จะหารือกับบริษัทโบอิง เพื่อพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมในการนำเครื่องบินขนส่งสินค้า หรือ FREIGHTER มาให้บริการในปี 2553
โดยในเบื้องต้นอยู่ระหว่างพิจารณา 4 ทางเลือก คือ 1.การนำเครื่องบินโบอิง 747-400 ที่มีอยู่ ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ใช้งานมานาน มาดัดแปลงเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า ซึ่งจะใช้เงินประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ ในการปรับปรุงเครื่อง 2.การเช่าเครื่องบินขนส่งสินค้ารุ่นเก่าที่มีอยู่ในท้องตลาดจากผู้ผลิตโดยตรง 3.การสั่งซื้อเครื่องบินขนส่งสินค้าโดยเฉพาะ คือ เครื่องบินโบอิง 777-200 ลำละประมาณ 150 ล้านดอลลาร์ และ 4.การเช่าเครื่องบินรุ่นใหม่จากสายการบินต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาด โดยคาดว่าภายใน 2 เดือนจะมีความชัดเจน และจะเสนอให้คณะกรรมการการบินไทยพิจารณาต่อไป
ที่ต้องนำเครื่องบินขนส่งสินค้ามาให้บริการ เพราะแต่ละปี ปริมาณสินค้าที่ขนส่งทางอากาศของไทย ทั้งสินค้านำเข้าและส่งออก มูลค่าสูงถึง 1 ล้านตัน แต่เรามีส่วนแบ่งตลาดแค่ 1 แสนตัน เพราะเป็นการขนส่ง โดยใช้พื้นที่ระวางใต้ท้องเครื่องบิน และแต่ละเที่ยวบินจะขนส่งได้ประมาณ 10-14 ตัน ประกอบกับธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต คาดว่าการนำเครื่องบินขนส่งสินค้ามาให้บริการ จะช่วยให้รายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 2.4 หมื่นล้านบาท จากเดิม 2 หมื่นล้านบาท\\\" นายพฤทธิ์ กล่าว
แหล่งข่าวจากการบินไทย กล่าวว่า อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร หรือ CABIN FACTOR ในเดือนก.พ. ที่ผ่านมา อยู่ในระดับ 77.4% สูงกว่าประมาณการ ซึ่งตั้งไว้ที่ 73% โดยเป็นผลจากปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางยุโรปเพิ่มขึ้น และคาดว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยจะสูงกว่า 75% ตามที่ประมาณการไว้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าปริมาณผู้โดยสารของการบินไทยเริ่มจะฟื้นตัว โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/policy/20090304/21359/บินไทยเล็งนำเครื่องขนสินค้าหวังเพิ่มรายได้.html
/>