http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02tou01180552&day=2009-05-18§ionid=0208
/>
โรงแรม 7 เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของโลก \\\"กรุงเทพฯ-ปักกิ่ง-ดูไบ-ฮ่องกง-สิงคโปร์-ซิดนีย์-โตเกียว\\\" ไตรมาสแรกปี\\\"52 โคม่า ผลวิจัย \\\"รายได้-ราคา-ยอดพัก\\\" ดิ่งเหวติดลบสองหลัก ไตรมาส 2 ส่อเค้าลามหนักกว่าเก่า \\\"เอเชีย แปซิฟิก ดอตคอม\\\" ยาหอมกิจการระดับเกิน 5 ดาวยังฉลุย ท่ามกลางวิกฤตลูกค้าไฮเอนด์แห่ช็อปห้องพักหรูราคาถูกสุดๆ
บริษัท เอสทีอาร์ โกลบอล จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทที่มีเครื่องหมาย การค้าเป็นผู้นำโรงแรมโลก ได้จัดทำผลสำรวจการดำเนินงานโรงแรมในประเทศ
ที่เป็นเจ้าตลาดท่องเที่ยวในอาเซียน เอเชีย และแปซิฟิก 7 เมือง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ (ไทย) ปักกิ่ง (จีน) ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ฮ่องกง สิงคโปร์ ซิดนีย์ (ออสเตรเลีย) โตเกียว (ญี่ปุ่น) ด้วยวิธีเปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงผลการดำเนินงานไตรมาสแรก มกราคม-มีนาคม ปี 2552 กับปี 2551 และเฉพาะ ช่วงเดือนมีนาคม ปี 2552 กับปี 2551 วิเคราะห์ถึงสถานการณ์หลัก 3 ส่วน คืออัตราการเข้าพักเฉลี่ย ค่าห้องพักเฉลี่ย และรายได้เฉลี่ย
ผลปรากฏว่าทุกประเทศมีอัตราการเติบโตลดลงถึง 2 หลัก แนวโน้มจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 2 เมษายน-มิถุนายนนี้ กรุงเทพฯมีอุปสรรคปัญหาเชื่อมโยงกันมาตลอดตั้งแต่ปลายปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้สถานการณ์ธุรกิจโรงแรมภาพรวม ไตรมาส 1 ปี 2552 มีรายได้เฉลี่ยดิ่งต่ำลงกว่าปี 2551 ถึง 12.7% จาก 54 เหลือ 52 เหรียญสหรัฐ/ห้อง/คืน
จนกระทั่งทุกวันนี้กรุงเทพฯก็ยังไม่สามารถจะฟื้นฟูเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติได้ หลังจากเทศกาล สงกรานต์ ถูกความวุ่นวายในประเทศถล่มซ้ำ เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง ก่อจลาจลและล้ม การประชุมอาเซียน ซัมมิต ที่รอยัล คลิฟฟ์ บีช รีสอร์ต
ไตรมาส 1 ปี 2552 ธุรกิจโรงแรมในสิงคโปร์ก็มีสภาพไม่แตกต่างจากไทย อัตราเข้าพักเฉลี่ย ช่วงมีนาคมลดต่ำสุดถึง 15.8% เหลือเพียง 69.3% แถมรายได้เฉลี่ยต่อห้องเข้าสู่ยุคขาลงมากสุดลบถึง 35.1% ราคาห้องพักตกฮวบเหลือ 116 เหรียญสหรัฐ/ห้อง/คืน
ผู้เชี่ยวชาญอสังหาริมทรัพย์ประกอบกับผลวิจัยของเอสทีอาร์ โกลบอล ระบุชัดว่า สถานการณ์ภาพรวมตลอดไตรมาส 1 ปี 2552 เปรียบเทียบกับปี 2551 อัตราการเติบโตทั้ง 3 ส่วน ลดลง 2 หลัก
โดยมีสัญญาณอันตรายที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือรายได้เฉลี่ยมีแนวโน้มจะดิ่งลงเรื่อยๆ
กรณีมณฑลปักกิ่งหายไปราว 44.3% ค่าห้องเหลือเพียง 50 เหรียญสหรัฐ/ห้อง/ คืน แต่ยังโชคดีช่วงเดือนมีนาคม 2552 อัตราพักเฉลี่ยและราคาห้องพักเริ่ม
ขยับขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับฮ่องกงและ ออสเตรเลีย ยกเว้นโตเกียว ญี่ปุ่น เป็นประเทศเดียวในกลุ่มที่เติบโตลดลงต่ำน้อยกว่า 2 หลัก
เอสทีอาร์ โกลบอล ยังได้แสดงให้เห็นถึงกิจการโรงแรมในเมืองไทย ช่วงที่ตก อยู่ในเหตุการณ์ความวุ่นวายทาง การเมืองติดต่อกันยาวนานถึง 5 เดือน ระหว่างพฤศจิกายน 2551-ปลายมีนาคม 2552 สร้างผลเสียหายอย่างรุนแรงกับรายได้ต่อห้องตามจังหวัดท่องเที่ยวหลัก กรุงเทพฯ หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ ลดมากกว่า 30% ฉุดราคาห้องพักแต่ละวันมีแต่จะลดลงตามไปด้วย
นายโจฮัน สแวนสตรอม กรรมการ ผู้จัดการ เอเชีย แปซิฟิก ดอตคอม กล่าวว่า ผลสำรวจตลาดโรงแรมยังคงมีที่พักระดับไฮเอนด์ยืนหยัดอยู่อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากนักเดินทางที่หันมาใส่ใจกับชีวิตหรูหรา เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก จึงพร้อมจะซื้อทันทีเมื่อผู้ขายเสนอบริการพิเศษเพิ่มโดยคิดค่าใช้จ่ายรวมเป็นแพ็กเกจ ถึงระดับราคาของโรงแรมจะสูงตามเกรด แต่ก็ยังเป็นของราคาถูกสำหรับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์เหล่านี้
ล่าสุดช่วงปลายเดือนเมษายน 2552 Expedia Group, Hotel.com ผู้นำเว็บไซต์จองห้องพักที่มีเครือข่ายทั่วโลก ได้สำรวจพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ท่ามกลางปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลกกำลังลุกลามมากขึ้น ภาพเชิงลบส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับผู้ประกอบการโรงแรมทางด้านรายได้จากห้องพัก
ภาพเชิงบวกยังมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสามารถครองใจลูกค้ากลุ่มนัก เดินทางทั่วโลกอย่างเหนียวแน่น เมื่อตลาดไฮเอนด์แห่จองใช้บริการห้องพักหรูระดับ 5 ดาว เพราะเหตุผลราคาดังกล่าวประหยัดกว่าช่วงเหตุการณ์ปกติหลายเท่า
นักเดินทางที่ชื่นชอบที่พักหรูหราราคาประหยัดยังคงเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่จะเลือกท่องเที่ยวตลอดปีนี้เส้นทางหลัก 5 ประเทศ ได้แก่ บาหลี อินโดนีเซีย ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ปราก สาธารณรัฐเช็ก ลอนดอน อังกฤษ และฮ่องกง