โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ททท.ลอนดอน ชี้การเมือง-ไฟไหม้ซานติก้า วิกฤตการเงินโลกกระหน่ำ หวั่นยอดนักท่องเที่ยวจากอังกฤษเข้าไทย ไตรมาสแรกลด 60-70%
ททท.ชี้นักท่องเที่ยวอังกฤษส่อเค้าวูบ60%
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลอนดอน กล่าวว่า จากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่มีผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนในยุโรป ประกอบกับปัญหาการเมืองและเพลิงไหม้ซานติก้า ผับช่วงปีใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่ผ่านมา คาดว่าจะทำให้การท่องเที่ยวของคนอังกฤษที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย อาจได้รับผลกระทบมากขึ้น คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้จะลดลง 60-70% ไตรมาสที่ 2 ลดลง 40-50% และเชื่อว่าจะเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติได้ในช่วงไตรมาสที่ 3
ทั้งนี้การประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวเฉพาะนักท่องจากอังกฤษที่จะเดินทางมายังประเทศไทยในปี 2552 นี้ คาดว่าอาจไม่ถึง 7.45 แสนคน เนื่องจากปัจจัยลบดังกล่าว จากในปี 2550 ที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่เดินทางมาประเทศไทยอยู่ในระดับ 3.689 ล้านคน สร้างรายได้คิดเป็น 2.07 แสนล้านบาท และในปีที่ผ่านมา ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่เดินทางมาที่ประเทศไทย เฉพาะนักท่องเที่ยวจากอังกฤษ ช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค. พบว่ามีจำนวนเกือบ 5 แสนคน สร้างรายได้ 4.75 หมื่นล้านบาทแล้ว
\\\"นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวในระดับต้นๆ ให้กับประเทศไทย เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวนี้ มีค่าใช้จ่ายต่อคนประมาณวันละ 3,800 บาท และจำนวนวันที่พักอาศัยอยู่ในไทยยาวนานเฉลี่ย 16.7 วันต่อครั้ง \\\" นายธเนศวร์ กล่าว
ดึงงานระดับโลกสร้างความมั่นใจ
นายธเนศวร์ กล่าวต่อว่า แนวทางการเรียกความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวในประเทศมากขึ้น เบื้องต้น ททท.สำนักงานลอนดอนได้แสดงความเสียใจและขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด หลังจากนี้รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเรียกความเชื่อมั่นจากนายกรัฐมนตรีคนใหม ที่ควรออกมาแสดงบทบาทถึงความพร้อมในการต้อนรับการท่องเที่ยวอีกครั้ง
นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่ควรเร่งดำเนินการคือ ประเทศไทยควรดึงการจัดงานระดับโลก ทั้งการจัดประชุมในรูปแบบต่างๆ การจัดแข่งขันกีฬา เพื่อสร้างกระแสการท่องเที่ยว และช่วยสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวให้กลับคืนมา หลังจากที่มีการยกเลิกการจัดงานจำนวนมาก ช่วงที่เกิดปัญหาการปิดล้อมสนามบินก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อมั่นว่า ในระยะยาวแล้วการท่องเที่ยวในประเทศไทยก็ยังมีจุดเด่นในเรื่องความคุ้มค่า (Value For Money) รวมทั้งบริการและสินค้าการท่องเที่ยวที่ดี จะยังเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวยุโรปที่มีพฤติกรรมท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนอยู่
ที่มา
http://www.bangkokbiznews.com/home/news/business/business/2009/01/12/news_5343.php
ททท.ลอนดอน ชี้การเมือง-ไฟไหม้ซานติก้า วิกฤตการเงินโลกกระหน่ำ หวั่นยอดนักท่องเที่ยวจากอังกฤษเข้าไทย ไตรมาสแรกลด 60-70%
ททท.ชี้นักท่องเที่ยวอังกฤษส่อเค้าวูบ60%
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลอนดอน กล่าวว่า จากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่มีผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนในยุโรป ประกอบกับปัญหาการเมืองและเพลิงไหม้ซานติก้า ผับช่วงปีใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่ผ่านมา คาดว่าจะทำให้การท่องเที่ยวของคนอังกฤษที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย อาจได้รับผลกระทบมากขึ้น คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้จะลดลง 60-70% ไตรมาสที่ 2 ลดลง 40-50% และเชื่อว่าจะเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติได้ในช่วงไตรมาสที่ 3
ทั้งนี้การประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวเฉพาะนักท่องจากอังกฤษที่จะเดินทางมายังประเทศไทยในปี 2552 นี้ คาดว่าอาจไม่ถึง 7.45 แสนคน เนื่องจากปัจจัยลบดังกล่าว จากในปี 2550 ที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่เดินทางมาประเทศไทยอยู่ในระดับ 3.689 ล้านคน สร้างรายได้คิดเป็น 2.07 แสนล้านบาท และในปีที่ผ่านมา ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่เดินทางมาที่ประเทศไทย เฉพาะนักท่องเที่ยวจากอังกฤษ ช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค. พบว่ามีจำนวนเกือบ 5 แสนคน สร้างรายได้ 4.75 หมื่นล้านบาทแล้ว
\\\"นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวในระดับต้นๆ ให้กับประเทศไทย เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวนี้ มีค่าใช้จ่ายต่อคนประมาณวันละ 3,800 บาท และจำนวนวันที่พักอาศัยอยู่ในไทยยาวนานเฉลี่ย 16.7 วันต่อครั้ง \\\" นายธเนศวร์ กล่าว
ดึงงานระดับโลกสร้างความมั่นใจ
นายธเนศวร์ กล่าวต่อว่า แนวทางการเรียกความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวในประเทศมากขึ้น เบื้องต้น ททท.สำนักงานลอนดอนได้แสดงความเสียใจและขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด หลังจากนี้รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเรียกความเชื่อมั่นจากนายกรัฐมนตรีคนใหม ที่ควรออกมาแสดงบทบาทถึงความพร้อมในการต้อนรับการท่องเที่ยวอีกครั้ง
นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่ควรเร่งดำเนินการคือ ประเทศไทยควรดึงการจัดงานระดับโลก ทั้งการจัดประชุมในรูปแบบต่างๆ การจัดแข่งขันกีฬา เพื่อสร้างกระแสการท่องเที่ยว และช่วยสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวให้กลับคืนมา หลังจากที่มีการยกเลิกการจัดงานจำนวนมาก ช่วงที่เกิดปัญหาการปิดล้อมสนามบินก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อมั่นว่า ในระยะยาวแล้วการท่องเที่ยวในประเทศไทยก็ยังมีจุดเด่นในเรื่องความคุ้มค่า (Value For Money) รวมทั้งบริการและสินค้าการท่องเที่ยวที่ดี จะยังเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวยุโรปที่มีพฤติกรรมท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนอยู่
ที่มา
http://www.bangkokbiznews.com/home/news/business/business/2009/01/12/news_5343.php