โดย : กรุงเทพธุรกิจ
\\\"ทนง\\\" อ้างปัญหาขาดทุนเกิดจาก 3 ปัจจัย \\\"น้ำมัน-ปิดสนามบิน-จุดอ่อนการบริหาร\\\" อัดผู้บริหารวางแผนไม่เป็นโทษคนอื่น
ดร.ทนง พิทยะ อดีตประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ ไทยแลนด์ คลื่น 98.0 บิสซิเนสเรดิโอ วานนี้ (28 ม.ค.) ว่า ปัญหาการขาดทุนของการบินไทยเกิดจาก 3 ปัจจัย คือ 1.ราคาน้ำมัน 2.การปิดท่าอากาศยาน และ 3.การบริหารงานที่มีจุดอ่อน โดยเป็นบริษัทเดียวในโลกที่ราคาตั๋วโดยสารที่ซื้อผ่านระบบอินเทอร์เน็ต มีราคาสูงกว่าตั๋วโดยสารที่ซื้อผ่านบริษัททัวร์ การบินไทยต้องเพิ่มสัดส่วนการขายตั๋วผ่านระบบอินเทอร์เน็ตให้ได้ เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน
การบินไทยยังไม่ปรับตัวตามสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป ยังใช้ระบบการบริหารงานแบบเดิมๆ เกิดความผิดพลาดในการวางแผน โดยเฉพาะการซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า ส่งผลให้ขาดทุนประมาณ 5- 6 พันล้านบาท การบินไทยยังไม่ได้เสียหายมาก เพราะยังมีเครดิตมีสินทรัพย์หลายหมื่นล้านบาท
ส่วนการจัดซื้อเครื่องบินที่ผ่านมา โดยเฉพาะเครื่องบินแอร์บัส เอ 340-500 ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้การบินไทยมีปัญหา ต้องเข้าใจปรัชญาการซื้อเครื่องบิน อายุเฉลี่ยของเครื่องการบินไทยคือ 12 ปี ขณะที่อายุเฉลี่ยของเครื่องสิงคโปร์แอร์ไลน์ส คือ 7 ปี ต้องหาเครื่องบินใหม่ทดแทน โดยผลการศึกษาระบุว่าเครื่องบินโบอิง 747-400 ล้าสมัย เป็นเครื่องขนาดใหญ่ มีเสียงดังและกินน้ำมัน จึงไม่คุ้มค่า ขณะที่เครื่องบินแอร์บัส เอ 340 -500 และแอร์บัส เอ 340-600 มีราคาต่ำกว่าเครื่องบินโบอิง 777 ประมาณ 20-30%
ชี้บริหารไม่เป็นโทษคนซื้อเครื่องบิน
ส่วนการเปิดเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ-นิวยอร์กนั้น จากการคำนวณพบว่า หากราคาน้ำมันไม่เกิน 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลถือว่ามีความไปได้ เพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ ที่ต้องการสร้างการบินไทยให้เป็น GLOBAL AIRLINE แท้จริง สามารถไปได้รอบโลก ไม่ใช่แค่ลอสแองเจลิส การจะไปให้ได้รอบโลกต้องไปนิวยอร์ก เพื่อแข่งขันกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ให้ได้ จึงเหตุที่ตัดสินใจซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ 340-500 ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก
เปรียบเหมือนไปสร้างโรงงานให้เขา แต่บริหารไม่เป็นแล้วเจ๊ง จะว่าผมซื้อไม่ดี แล้วทำไมคนอื่นอยู่รอดได้ แน่นอนถ้าน้ำมัน 100 ดอลลาร์ แม้ผู้โดยสารเต็มก็ขาดทุน แต่ขาดทุนชั่วคราว หัวใจสำคัญทำไมคนอื่นไม่หยุดบิน เวลาเจ๊งโทษคนซื้อเครื่อง อยู่ที่กลยุทธ์การบริหารมากกว่า ปิดเส้นกรุงเทพฯ-ขอนแก่น เวลาขาดทุนจะถูกโวย แต่ปิดนิวยอร์กไม่เป็นไร คนไทยน้อย ดร.ทนง กล่าว
อ้าง \\\"ตั๋วฟรี\\\" ทำนิวยอร์กขาดทุน
อย่างไรก็ตาม การขาดทุนจากเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก เป็นผลจากการขายตั๋วโดยสาร จะเห็นได้ว่าสิงคโปร์แอร์ไลน์สขายตั๋วได้ในราคาดีกว่าการบินไทย และเพิ่มเที่ยวบินนิวยอร์กได้ เพราะรู้ว่าเป็นการขาย BUSINESS CLASS มีการเปลี่ยน ECONOMY CLASS เป็น BUSINESS ทั้งหมด เปลี่ยนกลยุทธ์ในระหว่างทำการบิน แต่เมื่อการบินไทยยกเลิกเที่ยวบินนิวยอร์ก สิงคโปร์จึงไม่มีคู่แข่ง หากการบินไทยทำให้ดีโดยไม่ใช้ตั๋วโดยสารฟรี ไม่มีชั้นประหยัดมากนัก เส้นทางนิวยอร์กก็จะดีขึ้น
เพราะมีตั๋วฟรีเยอะเกินไป ตั๋ว UP GRADE มากเกินไป ต้องมองที่ความเป็นจริง มันมีวิธีแก้ การบินไทยขาดทุนสองหมื่นล้านเรื่องเล็กน้อย ปัญหาอยู่ที่ยุทธศาสตร์ที่ไม่สามารถเพิ่มจุดขายได้มากพอ ยังอิงกับทัวร์และคนไทย ทั้งที่เส้นทางนิวยอร์กเป็นเส้นทางธุรกิจ สิงคโปร์แอร์ไลน์สและสายการบินอื่น จึงเน้นผู้โดยสารชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่ง แต่การบินไทยขายตั๋วชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งให้เฉพาะคนไทยจึงไม่พอ ดร.ทนง กล่าว
นอกจากนี้ ระบบการขายตั๋วของการบินไทยผูกขาดตลอด โดยทัวร์ 5 เสือและอมาดิอุส วิธีใช้ของอมาดิอุส และระบบการตลาดที่มีอยู่ ค่อนข้างผูกขาดขายโดยไม่สนใจว่าการบินไทยจะมีเที่ยวบินเต็มหรือไม่ ผู้ที่จองตั๋วชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่งหากเป็นบุคคลทั่วไป เมื่อจองพบว่าเต็ม ที่นั่งจะว่าง 3 วันก่อนเดินทาง เมื่อผู้โดยสารขึ้นเครื่องพบว่าที่นั่งว่าง การบินไทยยังอิงกับ AGENT รายใหญ่ของโลก จึงไม่สามารถนำตั๋วโดยสารบางส่วนขายเองหรือผ่านอินเทอร์เน็ต
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาการบินไทยต้องลดต้นทุนการดำเนินงาน และจัดเครือข่ายการบินให้ได้ผลที่สุด ปรับปรุงด้านบริการ ปัจจุบันเริ่มแย่ลง โดยการลดมาตรฐานการให้บริการ ทำให้ผู้โดยสารในชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งลดลง
ยอมรับถูกทาบนั่งประธานบอร์ด
ดร.ทนงระบุว่า ได้รับการสอบถามว่าสนใจเป็นประธานกรรมการการบินไทยหรือไม่ ยังสองจิตสองใจอยู่ ส่วนตัวไม่อยากยุ่ง แต่จุดหนึ่งก็เสียดายที่เคยอยู่กับการบินไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ประสิทธิภาพการทำงานยังไม่เพียงพอ หากอยู่นิ่งๆ ไม่ปรับตัว คือการตายของธุรกิจที่ต้องแข่งกับโลก เท่าที่ฟังข้อมูลเบื้องต้น พบว่าพนักงานยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงขาดทุน ขณะที่ผู้นำสหภาพฯ ก็ออกมาให้ข่าว ตนเชื่อว่าเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์กลัวว่าตนจะกลับไป
ส่วนตัวไม่ได้อยากกลับไป แต่ถ้าจำเป็นต้องทำเพื่อส่วนรวม ถ้าพนักงานเข้าใจ ในฐานะที่เป็นนักการเงินและอยู่กับการบินไทยมาก่อน ต้องเสียสละ เสียดายธุรกิจที่ต้องแข่งขันกับโลก
สมัยที่อยู่กันมา 3-4 ปี กำไรหมื่นกว่าล้านบาททุกปี ปัญหาการบินไทยไม่ได้ร้ายแรง ทำกำไรหมื่นกว่าล้านบาทมาหลายปี สะสมสินทรัพย์ไว้มาก หากต้องกู้สัก 2 หมื่นล้านบาท ไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพราะหนี้สินต่อทุนไม่ได้สูง ดร.ทนง กล่าว
ส่วนการนำชื่อตนออกมานั้น ถือเป็นธรรมดาที่ต้องมีผู้โจมตี ตนไม่ได้คิดอะไร ถือว่าไม่มีความหมายที่อยู่ดีดีแค่มาถามว่าสนใจหรือไม่ แต่อยู่ที่องค์กร และรัฐบาลต้องการจะแก้ปัญหาการบินไทยอย่างไร หากคิดว่าตนมีความสามารถเชื่อได้ว่าจะให้เข้าไปช่วย แต่หากเชื่อว่าตนมีแผลมาก ตามที่สหภาพฯ ออกมาโจมตี ก็ไม่ควรดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง
http://www.bangkokbiznews.com/home/news/business/business/2009/01/29/news_11342.php
/>
\\\"ทนง\\\" อ้างปัญหาขาดทุนเกิดจาก 3 ปัจจัย \\\"น้ำมัน-ปิดสนามบิน-จุดอ่อนการบริหาร\\\" อัดผู้บริหารวางแผนไม่เป็นโทษคนอื่น
ดร.ทนง พิทยะ อดีตประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ ไทยแลนด์ คลื่น 98.0 บิสซิเนสเรดิโอ วานนี้ (28 ม.ค.) ว่า ปัญหาการขาดทุนของการบินไทยเกิดจาก 3 ปัจจัย คือ 1.ราคาน้ำมัน 2.การปิดท่าอากาศยาน และ 3.การบริหารงานที่มีจุดอ่อน โดยเป็นบริษัทเดียวในโลกที่ราคาตั๋วโดยสารที่ซื้อผ่านระบบอินเทอร์เน็ต มีราคาสูงกว่าตั๋วโดยสารที่ซื้อผ่านบริษัททัวร์ การบินไทยต้องเพิ่มสัดส่วนการขายตั๋วผ่านระบบอินเทอร์เน็ตให้ได้ เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน
การบินไทยยังไม่ปรับตัวตามสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป ยังใช้ระบบการบริหารงานแบบเดิมๆ เกิดความผิดพลาดในการวางแผน โดยเฉพาะการซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า ส่งผลให้ขาดทุนประมาณ 5- 6 พันล้านบาท การบินไทยยังไม่ได้เสียหายมาก เพราะยังมีเครดิตมีสินทรัพย์หลายหมื่นล้านบาท
ส่วนการจัดซื้อเครื่องบินที่ผ่านมา โดยเฉพาะเครื่องบินแอร์บัส เอ 340-500 ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้การบินไทยมีปัญหา ต้องเข้าใจปรัชญาการซื้อเครื่องบิน อายุเฉลี่ยของเครื่องการบินไทยคือ 12 ปี ขณะที่อายุเฉลี่ยของเครื่องสิงคโปร์แอร์ไลน์ส คือ 7 ปี ต้องหาเครื่องบินใหม่ทดแทน โดยผลการศึกษาระบุว่าเครื่องบินโบอิง 747-400 ล้าสมัย เป็นเครื่องขนาดใหญ่ มีเสียงดังและกินน้ำมัน จึงไม่คุ้มค่า ขณะที่เครื่องบินแอร์บัส เอ 340 -500 และแอร์บัส เอ 340-600 มีราคาต่ำกว่าเครื่องบินโบอิง 777 ประมาณ 20-30%
ชี้บริหารไม่เป็นโทษคนซื้อเครื่องบิน
ส่วนการเปิดเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ-นิวยอร์กนั้น จากการคำนวณพบว่า หากราคาน้ำมันไม่เกิน 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลถือว่ามีความไปได้ เพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ ที่ต้องการสร้างการบินไทยให้เป็น GLOBAL AIRLINE แท้จริง สามารถไปได้รอบโลก ไม่ใช่แค่ลอสแองเจลิส การจะไปให้ได้รอบโลกต้องไปนิวยอร์ก เพื่อแข่งขันกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ให้ได้ จึงเหตุที่ตัดสินใจซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ 340-500 ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก
เปรียบเหมือนไปสร้างโรงงานให้เขา แต่บริหารไม่เป็นแล้วเจ๊ง จะว่าผมซื้อไม่ดี แล้วทำไมคนอื่นอยู่รอดได้ แน่นอนถ้าน้ำมัน 100 ดอลลาร์ แม้ผู้โดยสารเต็มก็ขาดทุน แต่ขาดทุนชั่วคราว หัวใจสำคัญทำไมคนอื่นไม่หยุดบิน เวลาเจ๊งโทษคนซื้อเครื่อง อยู่ที่กลยุทธ์การบริหารมากกว่า ปิดเส้นกรุงเทพฯ-ขอนแก่น เวลาขาดทุนจะถูกโวย แต่ปิดนิวยอร์กไม่เป็นไร คนไทยน้อย ดร.ทนง กล่าว
อ้าง \\\"ตั๋วฟรี\\\" ทำนิวยอร์กขาดทุน
อย่างไรก็ตาม การขาดทุนจากเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก เป็นผลจากการขายตั๋วโดยสาร จะเห็นได้ว่าสิงคโปร์แอร์ไลน์สขายตั๋วได้ในราคาดีกว่าการบินไทย และเพิ่มเที่ยวบินนิวยอร์กได้ เพราะรู้ว่าเป็นการขาย BUSINESS CLASS มีการเปลี่ยน ECONOMY CLASS เป็น BUSINESS ทั้งหมด เปลี่ยนกลยุทธ์ในระหว่างทำการบิน แต่เมื่อการบินไทยยกเลิกเที่ยวบินนิวยอร์ก สิงคโปร์จึงไม่มีคู่แข่ง หากการบินไทยทำให้ดีโดยไม่ใช้ตั๋วโดยสารฟรี ไม่มีชั้นประหยัดมากนัก เส้นทางนิวยอร์กก็จะดีขึ้น
เพราะมีตั๋วฟรีเยอะเกินไป ตั๋ว UP GRADE มากเกินไป ต้องมองที่ความเป็นจริง มันมีวิธีแก้ การบินไทยขาดทุนสองหมื่นล้านเรื่องเล็กน้อย ปัญหาอยู่ที่ยุทธศาสตร์ที่ไม่สามารถเพิ่มจุดขายได้มากพอ ยังอิงกับทัวร์และคนไทย ทั้งที่เส้นทางนิวยอร์กเป็นเส้นทางธุรกิจ สิงคโปร์แอร์ไลน์สและสายการบินอื่น จึงเน้นผู้โดยสารชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่ง แต่การบินไทยขายตั๋วชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งให้เฉพาะคนไทยจึงไม่พอ ดร.ทนง กล่าว
นอกจากนี้ ระบบการขายตั๋วของการบินไทยผูกขาดตลอด โดยทัวร์ 5 เสือและอมาดิอุส วิธีใช้ของอมาดิอุส และระบบการตลาดที่มีอยู่ ค่อนข้างผูกขาดขายโดยไม่สนใจว่าการบินไทยจะมีเที่ยวบินเต็มหรือไม่ ผู้ที่จองตั๋วชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่งหากเป็นบุคคลทั่วไป เมื่อจองพบว่าเต็ม ที่นั่งจะว่าง 3 วันก่อนเดินทาง เมื่อผู้โดยสารขึ้นเครื่องพบว่าที่นั่งว่าง การบินไทยยังอิงกับ AGENT รายใหญ่ของโลก จึงไม่สามารถนำตั๋วโดยสารบางส่วนขายเองหรือผ่านอินเทอร์เน็ต
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาการบินไทยต้องลดต้นทุนการดำเนินงาน และจัดเครือข่ายการบินให้ได้ผลที่สุด ปรับปรุงด้านบริการ ปัจจุบันเริ่มแย่ลง โดยการลดมาตรฐานการให้บริการ ทำให้ผู้โดยสารในชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งลดลง
ยอมรับถูกทาบนั่งประธานบอร์ด
ดร.ทนงระบุว่า ได้รับการสอบถามว่าสนใจเป็นประธานกรรมการการบินไทยหรือไม่ ยังสองจิตสองใจอยู่ ส่วนตัวไม่อยากยุ่ง แต่จุดหนึ่งก็เสียดายที่เคยอยู่กับการบินไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ประสิทธิภาพการทำงานยังไม่เพียงพอ หากอยู่นิ่งๆ ไม่ปรับตัว คือการตายของธุรกิจที่ต้องแข่งกับโลก เท่าที่ฟังข้อมูลเบื้องต้น พบว่าพนักงานยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงขาดทุน ขณะที่ผู้นำสหภาพฯ ก็ออกมาให้ข่าว ตนเชื่อว่าเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์กลัวว่าตนจะกลับไป
ส่วนตัวไม่ได้อยากกลับไป แต่ถ้าจำเป็นต้องทำเพื่อส่วนรวม ถ้าพนักงานเข้าใจ ในฐานะที่เป็นนักการเงินและอยู่กับการบินไทยมาก่อน ต้องเสียสละ เสียดายธุรกิจที่ต้องแข่งขันกับโลก
สมัยที่อยู่กันมา 3-4 ปี กำไรหมื่นกว่าล้านบาททุกปี ปัญหาการบินไทยไม่ได้ร้ายแรง ทำกำไรหมื่นกว่าล้านบาทมาหลายปี สะสมสินทรัพย์ไว้มาก หากต้องกู้สัก 2 หมื่นล้านบาท ไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพราะหนี้สินต่อทุนไม่ได้สูง ดร.ทนง กล่าว
ส่วนการนำชื่อตนออกมานั้น ถือเป็นธรรมดาที่ต้องมีผู้โจมตี ตนไม่ได้คิดอะไร ถือว่าไม่มีความหมายที่อยู่ดีดีแค่มาถามว่าสนใจหรือไม่ แต่อยู่ที่องค์กร และรัฐบาลต้องการจะแก้ปัญหาการบินไทยอย่างไร หากคิดว่าตนมีความสามารถเชื่อได้ว่าจะให้เข้าไปช่วย แต่หากเชื่อว่าตนมีแผลมาก ตามที่สหภาพฯ ออกมาโจมตี ก็ไม่ควรดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง
http://www.bangkokbiznews.com/home/news/business/business/2009/01/29/news_11342.php
/>