โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
นักวิเคราะห์คาด สายการบินเอเชียแห่ลดเส้นทางการบิน พร้อมงัดกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ เพื่อไม่ให้ขาดทุนในช่วงที่ความต้องการเดินทางทางอากาศตกต่ำ
บรรดานักวิเคราะห์และผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมการบิน คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเลวร้ายลงกว่าที่เป็นอยู่ ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่ง และคาดว่าสายการบินต่างๆ จะประกาศปลดพนักงานอีกในไม่ช้านี้ ขณะที่บรรดาสายการบินต่างๆ จะพยายามทำข้อตกลงเป็นพันธมิตร หรือทำข้อตกลงร่วมมือทางธุรกิจรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงเผชิญผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลก
นายชูโกร์ ยูซุฟ นักวิเคราะห์การบินของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ให้ความเห็นว่า สถานการณ์จะแย่ลง ก่อนที่จะดีขึ้น ขณะที่สายการบินต่างๆ ต้องเตรียมตัวรับมือกับเรื่องนี้ให้ได้
ทั้งนี้ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส (เอสไอเอ) หนึ่งในสายการบินยักษ์ใหญ่ของเอเชีย ประกาศระงับให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศบางเส้นทาง รวมถึงเที่ยวบินสู่อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สหรัฐ และยุโรป พร้อมทั้งลดการให้บริการเที่ยวบินตรงสู่นิวยอร์กและลอสแองเจลิส ที่มีแต่ที่นั่งชั้นธุรกิจทั้งหมด ลงจากเดิมที่มีอยู่ 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เหลือเพียง 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการให้บริการเที่ยวบินที่มีผู้โดยสารจำนวนน้อย เพราะไม่คุ้มทุน
ขณะที่ เจแปน แอร์ไลน์ส (เจเอแอล) สายการบินรายใหญ่อีกแห่งหนึ่ง เตรียมลดเที่ยวบินจากโตเกียว สู่นิวยอร์ก กรุงเทพฯ และ โซล ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. นี้ พร้อมทั้งหยุดให้บริการเส้นทางโอซากา-ลอนดอน ใช้เครื่องบินขนาดเล็กลง สำหรับการบินเส้นทางจากโตเกียว สู่ ซิดนีย์ ชิคาโก และลอสแองเจลิส เพื่อลดจำนวนที่นั่ง เช่นเดียวกับ ออล นิปปอน แอร์เวยส์ (เอเอ็นเอ) สายการบินอันดับ สองของญี่ปุ่น ที่มีแผนใช้เครื่องบินขนาดเล็กลง ให้บริการเส้นทางบินจากโตเกียว สู่ยุโรปและสหรัฐ ในช่วงปลายปีนี้
ล่าสุด นายจิโอวานนี บิสิกนานี ผู้อำนวยการสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) ประเมินว่า ปี 2552 จะเป็นปีที่ยากลำบากปีหนึ่งสำหรับอุตสาหกรรมการบินระหว่างประเทศ พร้อมทั้งเตือนให้สายการบินเร่งปรับตัว และเตรียมรับผลกระทบต่างๆ จากวิกฤติและความซบเซาที่เกิดขึ้นในตลาด
\\\"คาดว่า อุตสาหกรรมการบินจะต้องปลดพนักงาน เนื่องจากตัวเลขการเดินทางทางอากาศซบเซาลงอย่างหนัก ทั้งยอดผู้โดยสารและยอดขนส่งสินค้า\\\" นายยูซุฟ กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com/home/news/business/business/2009/02/02/news_12331.php />
นักวิเคราะห์คาด สายการบินเอเชียแห่ลดเส้นทางการบิน พร้อมงัดกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ เพื่อไม่ให้ขาดทุนในช่วงที่ความต้องการเดินทางทางอากาศตกต่ำ
บรรดานักวิเคราะห์และผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมการบิน คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเลวร้ายลงกว่าที่เป็นอยู่ ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่ง และคาดว่าสายการบินต่างๆ จะประกาศปลดพนักงานอีกในไม่ช้านี้ ขณะที่บรรดาสายการบินต่างๆ จะพยายามทำข้อตกลงเป็นพันธมิตร หรือทำข้อตกลงร่วมมือทางธุรกิจรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงเผชิญผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลก
นายชูโกร์ ยูซุฟ นักวิเคราะห์การบินของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ให้ความเห็นว่า สถานการณ์จะแย่ลง ก่อนที่จะดีขึ้น ขณะที่สายการบินต่างๆ ต้องเตรียมตัวรับมือกับเรื่องนี้ให้ได้
ทั้งนี้ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส (เอสไอเอ) หนึ่งในสายการบินยักษ์ใหญ่ของเอเชีย ประกาศระงับให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศบางเส้นทาง รวมถึงเที่ยวบินสู่อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สหรัฐ และยุโรป พร้อมทั้งลดการให้บริการเที่ยวบินตรงสู่นิวยอร์กและลอสแองเจลิส ที่มีแต่ที่นั่งชั้นธุรกิจทั้งหมด ลงจากเดิมที่มีอยู่ 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เหลือเพียง 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการให้บริการเที่ยวบินที่มีผู้โดยสารจำนวนน้อย เพราะไม่คุ้มทุน
ขณะที่ เจแปน แอร์ไลน์ส (เจเอแอล) สายการบินรายใหญ่อีกแห่งหนึ่ง เตรียมลดเที่ยวบินจากโตเกียว สู่นิวยอร์ก กรุงเทพฯ และ โซล ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. นี้ พร้อมทั้งหยุดให้บริการเส้นทางโอซากา-ลอนดอน ใช้เครื่องบินขนาดเล็กลง สำหรับการบินเส้นทางจากโตเกียว สู่ ซิดนีย์ ชิคาโก และลอสแองเจลิส เพื่อลดจำนวนที่นั่ง เช่นเดียวกับ ออล นิปปอน แอร์เวยส์ (เอเอ็นเอ) สายการบินอันดับ สองของญี่ปุ่น ที่มีแผนใช้เครื่องบินขนาดเล็กลง ให้บริการเส้นทางบินจากโตเกียว สู่ยุโรปและสหรัฐ ในช่วงปลายปีนี้
ล่าสุด นายจิโอวานนี บิสิกนานี ผู้อำนวยการสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) ประเมินว่า ปี 2552 จะเป็นปีที่ยากลำบากปีหนึ่งสำหรับอุตสาหกรรมการบินระหว่างประเทศ พร้อมทั้งเตือนให้สายการบินเร่งปรับตัว และเตรียมรับผลกระทบต่างๆ จากวิกฤติและความซบเซาที่เกิดขึ้นในตลาด
\\\"คาดว่า อุตสาหกรรมการบินจะต้องปลดพนักงาน เนื่องจากตัวเลขการเดินทางทางอากาศซบเซาลงอย่างหนัก ทั้งยอดผู้โดยสารและยอดขนส่งสินค้า\\\" นายยูซุฟ กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com/home/news/business/business/2009/02/02/news_12331.php