กรณ์ เบรกคลังค้ำประกันเงินกู้ 7.3 พันล้านบาท ให้ การบินไทย ตามแผนนำเงินไปชำระหนี้ซื้อเครื่องบิน ระบุไม่มีเหตุสมควร
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารหนี้สาธารณะ เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมไม่อนุมัติแผนของบริษัทการบินไทย ที่เสนอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้ยืมเงินจำนวน 7,300 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนเพียงพอว่า ทำไมบริษัทจึงขอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้ยืมเงินให้ ซึ่งตามปกติแล้ว เงินกู้ที่จะนำไปชำระหนี้การซื้อเครื่องบินนั้น ควรเป็นหน้าที่ของทางบริษัทที่จะจัดหาเงินกู้เอง
\\\"จริงๆ แล้ว เป็นเรื่องที่เขาขอให้คลังค้ำประกันเงินกู้เงินแทน ในช่วงที่เขากำลังทำแผนกู้เงินยังไม่สรุป แต่เราก็ยืนยันมาตั้งแต่แรกว่า ในส่วนของบริษัทการบินไทยนั้น กระทรวงการคลังจะไม่ทำอะไร แม้จะเป็นการกู้ยืมเงินระยะสั้นก็ตาม ถ้าจำเป็นต้องทำ จะต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจน\\\" นายกรณ์กล่าว
เตรียมออกพันธบัตรขายผู้สูงอายุ
นายกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีแผนที่จะออกพันธบัตรออมทรัพย์ในช่วงท้ายของไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้กู้เงินในตลาดระยะสั้น และมีแผนว่า เมื่อจำนวนเงินสะสมมากพอที่จะออกเป็นพันธบัตร กระทรวงการคลังก็จะดำเนินการแปลงเป็นพันธบัตรระยะยาว ซึ่งคาดว่า จะมีจำนวนเงินที่มากพอในช่วงท้ายของไตรมาสแรกปีนี้
สำหรับวงเงินที่เราคาดว่า จะออกพันธบัตรออมทรัพย์นั้น คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับพันธบัตรออมทรัพย์ที่ได้เคยออกไปเมื่อครั้งที่แล้ว หรืออยู่ที่ประมาณ 5-8 หมื่นล้านบาท ส่วนรูปแบบการขายจะใกล้เคียงลักษณะเดิม คือ จะเน้นขายให้กับผู้สูงอายุเป็นหลัก
เขากล่าวด้วยว่า ในสัปดาห์หน้า ทั้งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จะแถลงแผนปฏิบัติงานในปี 2553 เพื่อให้รับรู้ว่า แผนปฏิบัติงานจะมีความมุ่งเน้นในด้านใดบ้าง และสามารถตอบโจทย์ปัญหาด้วยมาตรการหรือนโยบายใดบ้าง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่การดูแลเศรษฐกิจเชิงมหภาค และลงรายละเอียดของแต่ละโครงการ
ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปี 2552 ถือว่าสามารถตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจได้ ฉะนั้นนโยบายลำดับต่อไป จึงจะให้ความสำคัญกับความเพิ่มความแข็งแกร่งและเสถียรภาพของประเทศ ขณะเดียวกัน ก็จะต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะวกกลับมามีผลต่อระบบเศรษฐกิจด้วย
\\\"มีหลายนโยบายที่กำหนดเพื่อแก้วิกฤติเศรษฐกิจที่เรายังคงไว้ และจะต้องมีการติดตามว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ ขณะเดียวกัน เราก็ต้องให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และ บริหารการเงินการคลังให้มีเสถียรภาพด้วย\\\"
หนี้ไม่เกิน 5 หมื่นบาทได้ปรับหนี้ก่อน
นายกรณ์ กล่าวถึง ความคืบหน้าของโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ว่า ปัจจุบันมีประชาชนมาลงทะเบียน เพื่อขอกู้เงินในระบบไปชำระหนี้นอกระบบจำนวนเกือบ 1 ล้านราย เฉลี่ยหนี้ต่อรายประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งถือว่าอยู่ในเป้าหมายที่กระทรวงการคลังกำหนดแล้ว ขณะนี้ จะเริ่มเข้าสู่การเจรจาหนี้ โดยกรมบัญชีกลางจะเป็นผู้คัดกรองลูกหนี้ เพื่อส่งให้กลับให้แก่ธนาคารต้นสังกัด เบื้องต้น จะเริ่มเจรจาเฉพาะกลุ่มคนจนที่มีหนี้ไม่เกิน 5 หมื่นบาทก่อน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1.5 แสนราย
\\\"หนี้คนจนส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อราย ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคอีสาน ตรงนี้ เราก็จะให้เริ่มดำเนินการเจรจาหนี้เลย เมื่อแล้วเสร็จ ก็จะเจรจาปรับหนี้ให้กับลูกหนี้รายอื่นต่อไป\\\" นายกรณ์กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20100112/94902/คลังเบรกค้ำเงินกู้-บินไทย-7พันล้าน.html
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารหนี้สาธารณะ เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมไม่อนุมัติแผนของบริษัทการบินไทย ที่เสนอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้ยืมเงินจำนวน 7,300 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนเพียงพอว่า ทำไมบริษัทจึงขอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้ยืมเงินให้ ซึ่งตามปกติแล้ว เงินกู้ที่จะนำไปชำระหนี้การซื้อเครื่องบินนั้น ควรเป็นหน้าที่ของทางบริษัทที่จะจัดหาเงินกู้เอง
\\\"จริงๆ แล้ว เป็นเรื่องที่เขาขอให้คลังค้ำประกันเงินกู้เงินแทน ในช่วงที่เขากำลังทำแผนกู้เงินยังไม่สรุป แต่เราก็ยืนยันมาตั้งแต่แรกว่า ในส่วนของบริษัทการบินไทยนั้น กระทรวงการคลังจะไม่ทำอะไร แม้จะเป็นการกู้ยืมเงินระยะสั้นก็ตาม ถ้าจำเป็นต้องทำ จะต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจน\\\" นายกรณ์กล่าว
เตรียมออกพันธบัตรขายผู้สูงอายุ
นายกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีแผนที่จะออกพันธบัตรออมทรัพย์ในช่วงท้ายของไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้กู้เงินในตลาดระยะสั้น และมีแผนว่า เมื่อจำนวนเงินสะสมมากพอที่จะออกเป็นพันธบัตร กระทรวงการคลังก็จะดำเนินการแปลงเป็นพันธบัตรระยะยาว ซึ่งคาดว่า จะมีจำนวนเงินที่มากพอในช่วงท้ายของไตรมาสแรกปีนี้
สำหรับวงเงินที่เราคาดว่า จะออกพันธบัตรออมทรัพย์นั้น คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับพันธบัตรออมทรัพย์ที่ได้เคยออกไปเมื่อครั้งที่แล้ว หรืออยู่ที่ประมาณ 5-8 หมื่นล้านบาท ส่วนรูปแบบการขายจะใกล้เคียงลักษณะเดิม คือ จะเน้นขายให้กับผู้สูงอายุเป็นหลัก
เขากล่าวด้วยว่า ในสัปดาห์หน้า ทั้งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จะแถลงแผนปฏิบัติงานในปี 2553 เพื่อให้รับรู้ว่า แผนปฏิบัติงานจะมีความมุ่งเน้นในด้านใดบ้าง และสามารถตอบโจทย์ปัญหาด้วยมาตรการหรือนโยบายใดบ้าง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่การดูแลเศรษฐกิจเชิงมหภาค และลงรายละเอียดของแต่ละโครงการ
ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปี 2552 ถือว่าสามารถตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจได้ ฉะนั้นนโยบายลำดับต่อไป จึงจะให้ความสำคัญกับความเพิ่มความแข็งแกร่งและเสถียรภาพของประเทศ ขณะเดียวกัน ก็จะต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะวกกลับมามีผลต่อระบบเศรษฐกิจด้วย
\\\"มีหลายนโยบายที่กำหนดเพื่อแก้วิกฤติเศรษฐกิจที่เรายังคงไว้ และจะต้องมีการติดตามว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ ขณะเดียวกัน เราก็ต้องให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และ บริหารการเงินการคลังให้มีเสถียรภาพด้วย\\\"
หนี้ไม่เกิน 5 หมื่นบาทได้ปรับหนี้ก่อน
นายกรณ์ กล่าวถึง ความคืบหน้าของโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ว่า ปัจจุบันมีประชาชนมาลงทะเบียน เพื่อขอกู้เงินในระบบไปชำระหนี้นอกระบบจำนวนเกือบ 1 ล้านราย เฉลี่ยหนี้ต่อรายประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งถือว่าอยู่ในเป้าหมายที่กระทรวงการคลังกำหนดแล้ว ขณะนี้ จะเริ่มเข้าสู่การเจรจาหนี้ โดยกรมบัญชีกลางจะเป็นผู้คัดกรองลูกหนี้ เพื่อส่งให้กลับให้แก่ธนาคารต้นสังกัด เบื้องต้น จะเริ่มเจรจาเฉพาะกลุ่มคนจนที่มีหนี้ไม่เกิน 5 หมื่นบาทก่อน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1.5 แสนราย
\\\"หนี้คนจนส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อราย ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคอีสาน ตรงนี้ เราก็จะให้เริ่มดำเนินการเจรจาหนี้เลย เมื่อแล้วเสร็จ ก็จะเจรจาปรับหนี้ให้กับลูกหนี้รายอื่นต่อไป\\\" นายกรณ์กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20100112/94902/คลังเบรกค้ำเงินกู้-บินไทย-7พันล้าน.html