951 กระทู้
3.8M+ ยอดวิว
20+ ปีแห่งความทรงจำ
3.2K+ ความคิดเห็น
กลับหน้ารายการ

ชงอภิสิทธิ์แบ่งงบ2แสนล.อุดทัวร์ \\\"เอกชน\\\"เสนอบิ๊กโปรเจ็กต์พัฒนาแหล่งเที่ยวใหม่

http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02tou01040552&day=2009-05-04&sectionid=0208 />
สภาอุตฯท่องเที่ยวชง \\\"นายกฯอภิสิทธิ์\\\" เจียดงบฯกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 อัดการลงทุนท่องเที่ยว 2.02 แสนล้านบาท ไฮไลต์โปรเจ็กต์เร่งด่วนปูพรมสู่ระยะยาว \\\"ปรับปรุง-พัฒนา\\\" แหล่งท่องเที่ยวบูม จุดขายเตรียมรับตลาดแบบยั่งยืนหลังเศรษฐกิจฟื้น และสร้างสินค้าเหนือชั้น ก่อนโดนคู่แข่งแซงไม่เห็นฝุ่น \\\"รมว.ชุมพล\\\" ขานรับเอกชนยกเครื่อง สพท.เข็นยุทธศาสตร์ใหม่



นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กลุ่มสมาชิกภาคเอกชนได้เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จัดแบ่งงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 จำนวน 1.56 ล้านล้านบาท จัดสรรให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวตามกรอบนโยบายวาระแห่งชาติทั้งระยะสั้นต่อเนื่องไปจนถึงระยะยาว 2.02 แสนล้านบาท มุ่งเน้นจัดทำโครงการใหญ่ลงทุนนำงบฯ 10% จำนวน 1.9 แสนล้านบาท ไปพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวสร้างจุดขายใหม่ๆ และปรับปรุงฟื้นฟูสถานที่ท่องเที่ยวเสื่อมโทรม พร้อมกับสร้างมาตรฐานการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว รักษาคุณภาพผู้ประกอบการไทยทั้งในระยะเร่งด่วนไปจนถึงระยะยาว

ล่าสุดในการประชุมคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเมื่อปลายเดือนเมษายนเห็นชอบตรงกันที่จะเสนอรัฐบาลใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 สร้างความแข็งแกร่ง 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ท่องเที่ยว เกษตรแปรรูป และสิ่งแวดล้อม เครื่องจักรขับเคลื่อนรวมทั้งเป็นที่พึ่งในการจัดทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุด ดึงตลาดต่างประเทศเข้ามาเพิ่มพูนรายได้ในประเทศทั้งทางด้านบริการและส่งออกสินค้าแก่ธุรกิจต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ สามารถกระจายเม็ดเงินสู่รากหญ้าในชุมชนท้องถิ่นไปจนถึงธุรกิจไฮเอนด์โรงแรม รีสอร์ต สายการบิน

นายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา ประธานบริษัท ครีเอทีฟ เดสติเนชั่น แมเนจเมนท์ จำกัด (ซีดีเอ็ม) นายกสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ (ไทย) และกรรมการสมาคมท่องเที่ยวทั่วประเทศ มีความเห็นตรงกันว่า ช่วงอุตสาหกรรมตกต่ำถึงขีดสุดจากปัญหาต่อเนื่องส่งผลกระทบกำลังซื้อต่างประเทศลดลงตลอด 4 เดือน มกราคม-เมษายนนี้ไม่ต่ำกว่า 40% ดังนั้นรัฐบาลควรหันมาจัดระเบียบการลงทุนพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวควบคู่กับการ

สร้างมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อเตรียมไว้รองรับตลาดหรือกำลังซื้ออันยั่งยืน

ในอนาคต เพราะประเทศได้ใช้ทรัพยากร ธรรมชาติดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากแต่ขาดการปรับปรุงและพัฒนาจนเสื่อมโทรมเป็นจำนวนมาก และหากรัฐบาลยังไม่ตื่นตัวทำอะไรจะยิ่งทำให้ขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยกับนานาชาติลดน้อยลงไปเรื่อยๆ

นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขณะนี้ได้ปรับโครงสร้างสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) เพื่อเดินหน้าปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรมและพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่เพื่อสร้างจุดขายอย่างยั่งยืน ตามนโยบายจะทำคู่ขนานกับการเสนอของบประมาณพิเศษเข้ามา ดูแลเร่งด่วน โดยจะไม่ทิ้งการทำวิจัยค้นคว้าพฤติกรรมความสนใจของตลาด ทุกประเทศ และมั่นใจหากเหตุการณ์ทุกอย่างสงบลงทั่วโลกจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยทันที เพราะไทยเป็นประเทศดึงดูดความสนใจ มีสถานที่ให้เลือกหลากหลายครบทุกรูปแบบ เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้ว การเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยคุ้มค่าเงินมากที่สุด

สำหรับงบฯที่ภาคเอกชนเสนอขอ จากรัฐบาลที่อยู่ระหว่างนำเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพิ่ม ประกอบด้วยกระตุ้นตลาดในและต่างประเทศ 10,000 ล้านบาท โดยขอให้รัฐจัดสรรเงินพิเศษกระจายทุกจังหวัด 5,000 ล้านบาท และขอองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสมทบอีก 5,000 ล้านบาท ทำโครงการคัดเลือกข้าราชการและนักเรียนดีเด่นเดินทางเที่ยวในประเทศตลอดทั้งปี งบฯอบรมพนักงานภายในสถานประกอบการเพื่อลดการเลิกจ้างแรงงานภาคบริการ โดยขอให้รัฐทำโครงการฝึกอบรมสัมมนาพร้อมกับจ่ายเบี้ยเลี้ยงพยุงการว่างงาน 1 แสนคน คนละ 9,000 บาท รวม 900 ล้านบาท และงบฯพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวระยะยาว 1.9 แสนล้านบาท

ยังไม่มีความคิดเห็นในกระทู้นี้

กลับหน้ารายการกระทู้